อาหารทอดหรือผัดเลือกจานไหนดี ?

สำหรับคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดหรือควบคุมน้ำหนักแล้วนั้น การเลือกอาหารเข้าปากสำคัญมาก เพราะ “สิ่งที่คุณเอาเข้าปาก จะเป็นตัวกำหนดรูปร่างของคุณ” อาหารในชีวิตประจำวันของคนไทยโดยทั่วไปส่วนมากก็หนีไม่พ้น “ทอดกับผัด”

อาหารทอด เช่น ไก่ทอด หมูทอดกระเทียม ปาท่องโก๋ ลูกชิ้นปลากรายทอด ลาบทอด เฟรนซ์ฟราย หอยทอด ฯลฯ

Processed with MOLDIV

อาหารทอด

อาหารผัด เช่น ผัดผักรวม ผัดคะน้าหมูกรอบ ผัดไทย ผัดซีอิ้ว ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ผัดผักบุ้งไฟแดง ฯลฯ

Processed with MOLDIV

อาหารผัด

ดูทั้งสองประเภทอาหารแล้ว ไม่ว่าจะทอดหรือผัด ก็ไม่เหมาะสำหรับคนลดหรือควบคุมน้ำหนักทั้งนั้นแหละ แต่ก็นะ ในชีวิตประจำวันบางครั้งก็หลีกเลี่ยงได้ยาก ถามว่า “ถ้าให้เลือกกินระหว่างทอดกับผัด เราควรเลือกสิ่งไหน ?”

ตอบแบบมีเงื่อนไขว่า ถ้าจำเป็นต้องเลือกระหว่างทอดกับผัด ขอตอบว่า……. เพื่อสุขภาพ “เลือกอาหารผัดครับ และควรเลี่ยงอาหารทอด”

เหตุผลที่ควรเลี่ยงอาหารทอด ยิ่งโดยเฉพาะ อาหารทอดในน้ำมันลอย เช่น ปาท่องโก๋ ขนมแป้งทอด เฟรนซ์ฟรายเป็นต้น อาหารทอดในน้ำมันลอย คือ อาหารที่ขณะทอดน้ำมันจะเยอะมาก พอใส่อาหารไปจะจมท่วมอาหาร พอสุกก็จะลอยขึ้นมา อาหารแบบนี้น้ำมันจะเยอะมาก แถมถ้าเป็นน้ำมันที่ทอดหลายๆ ครั้ง ก็บวกสารก่อมะเร็งเข้าไปอีก แคลอรี่ก็สูงเพราะมันจมน้ำมันขณะทอดอมน้ำมันเต็ม ๆ (น้ำมัน 1 กรัมเท่ากับ 9 แคลอรี่ มากกว่าแป้งซึ่งแป้งเท่ากับ 4 แคลอรี่)

ส่วนอาหารผัด เรายังสามารถควบคุมปริมาณน้ำมันได้ หรือขณะที่เราสั่งกับข้าวราดข้าวก็บอกแม่ค้าไปว่า น้ำมันในถาดไม่ต้องตักราดมา เอาเฉพาะตัวอาหารจริงๆ พอ แค่นี้เราก็พอที่จะลดปริมาณน้ำมันได้ครับ เพื่อสุขภาพรูปร่างของเรา

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะทอดหรือผัดก็ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักอยู่ แต่ถ้าจำเป็นต้องเลือกก็ ขอให้เลือกอย่างฉลาดนะครับ “ตกลงว่าจะรับทอดหรือผัดดี?”

เป็นเพื่อนแชทพูดคุยสอบถามกันได้ที่ Line ID : @chavanut และ IG: chavy212

ลดน้ำหนักกับโปเกมอน สนุก สุขภาพดี อินเทรนด์!

เก็บได้กี่ตัวแล้ว ? อยู่เวลไหนแล้ว ? แถวไหนมีโปเกมอนให้จับเยอะๆ ? ช่วงนี้ทั้งประเทศไทยมีกิจกรรมระดับประเทศคือ เล่นเกมส์จับโปเกมอน ปกติผมเป็นคนที่ไม่เล่นเกมส์อะไรพวกนี้ ในมือถือแทบไม่มีเกมส์เลย มีก็แค่ถอดไพ่ Solitaire เอาไว้เล่นเพลินๆ ผ่อนคลาย เจอกระแสคลื่นโปเกมอนจนต้องโหลดมาลองเล่นดู ไม่งั้นคุยกับคนอื่นไม่ได้เลย เพราะเขาคุยกันแต่เรื่องจับโปเกมอน ก็มีหลายคนที่บอกว่า ปัญญาอ่อนเล่นทำไมเสียเวลา เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กับชีวิตดีกว่า สร้างอนาคตก่อนดีมั๊ย ? (จริงจังกับชีวิตมาก เครียดไปป่าว!)

แต่พอลองเล่น เอ่อ! ก็หนุกดีนะ แล้วมันจะเอาไปช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร ? จากการเป็นโค้ชลดน้ำหนักให้กับเพื่อนๆ และคนที่อยากลดน้ำหนัก นอกจากการควบคุมแคลอรี่ที่กินเข้าไปแล้ว การใช้หรือเบิร์นแคลอรี่ออกไปก็สำคัญเช่นกัน ผมพบว่าคนที่อ้วนมักจะมีค่ากิจกรรมต่ำมากๆ ชอบอยู่นิ่ง ใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทุ่นแรงทุกอย่างเท่าที่มี พูดง่ายๆ อะไรที่ใช้แรง ฉันไม่เอา เหนื่อย ไม่ชอบ ไม่ทำ ไม่หนุกหนาน เบื่อ ฯลฯ

คนส่วนใหญ่ชอบทำสิ่งที่รู้สึกว่า ทำแล้วสนุก ได้โชว์ ได้อวดเพื่อนๆ อยู่ในโลกโซเชียล คุยเรื่องเดียวกัน ทำเรื่องเดียวกัน สรุปก็เป็นพวกเดียวกันถึงคุยกันรู้เรื่อง ผมว่านี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งว่าทำไมเกมส์ Pokemon Go ถึงเป็นกระแสที่แรงมากๆ ช่วงนี้ครับ แล้วการเล่นโปเกมอนมันต้องออกเดินไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อจับตัวโปเกมอนแต่ละแบบ สะสมบอล หาไข่ ฟักไข่ จุดนี้ละครับที่จะเอามาใช้ในการลดน้ำหนัก

กิจกรรมการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดี ถ้าไม่ออกกำลังก็ควรเดินให้ได้วันละอย่างน้อย 10,000 ก้าว มีข้อมูลยืนยันว่า “การเดินวันละ 10,000 ก้าวช่วยลดไขมัน เผาผลาญแคลอรี่ และสุขภาพจะดีขึ้น” จากประสบการณ์ที่ได้โค้ชลดน้ำหนักมา คนส่วนใหญ่จะเดินแค่วันละ 3,000-4,000 ก้าวเท่านั้นโดยประมาณ  ก็เดินแค่เช้าเดินเข้าที่ทำงาน เที่ยงเดินไปกินข้าว (ร้านใกล้ๆ ที่ทำงาน) เย็นก็เดินไปขึ้นรถเมล์หรือขับรถกลับบ้าน ก็ดังเหตุผลที่ผมบอกละครับ เลยทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ของเราน้อยกว่า แคลอรี่จากอาหารที่กิน เกิดการสะสมไขมัน เราก็จะค่อยๆ น้ำหนักเพิ่มขึ้นทีละเล็ก ทีละน้อย จนโรคอ้วนมาเยือนเราในที่สุด

แต่ถ้าเราเล่นเกมส์โปเกมอน แล้วเดินเก็บโปเกมอนไปยังที่ต่าง ๆ สนุกด้วย ลืมไปเลยว่าเดินไปไกลเท่าไหร่แล้ว แบบว่า เห็นตัวโปเกมอนกระโดดท้าทาย หยอง หยอง ไม่ได้ต้องจัดการเก็บซะ สนุกจนลืมเหนื่อยไปเลย ผมเนี่ย! พอเที่ยงปั๊บ! รีบลุกออกจากโต๊ะทำงานทันทีเลย เดินออกไปนอกที่ทำงานเก็บโปเกมอน ก่อนหาร้านกินข้าว พอกินเสร็จก็ไม่รีบกลับเดินหาโปเกมอนอีกพักนึง เดินออกกำลังแบบเต็ม ๆ เก็บเช้า เที่ยง และเย็น รับรองเกิน 10,000 ก้าวแน่นอน แบบเพลินๆ เลยครับ

ถ้าเราไม่รู้ว่าเราเดินไปเท่าไหร่ ? สบายมากครับให้ โหลดแอพ Moves  มาไว้บนสมาร์ทโฟน แอพนี้สามารถบอกเราได้ว่า

  • Steps หรือจำนวนก้าวเดินของเรา ว่าเราเดินไปเท่าไหร่ ? ก็เอาให้ทะลุ 10,000 ทุกวันนะครับ
  • Distance ระยะทางที่เราเดินเป็นกิโลเมตร
  • Time บอกเวลาว่าเดินกี่นาที
  • Calories บอกว่าที่เราเดิน เผาผลาญไปกี่ แคลอรี่
  • Time line บอกสถานที่ที่เราไปว่าเป็นที่ไหนบ้าง ? เดิน วิ่ง หรือขับรถไป
Processed with MOLDIV

แอพ Moves

อีกวิธีนึงที่จะนับก้าวก็คือ ใช้สายรัดข้อมือ เช่น สายรัดข้อมือ Inbody เป็นตัวนับก้าวให้ครบ 10,000 ก้าว แถมสายรัดตัวนี้ยังสามารถวัดมวลกล้ามเนื้อ ไขมัน ได้ด้วยซึ่งเป็นสายรัดข้อมือยี่ห้อเดียวในปัจจุบันนี้ที่ทำได้ ทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นและลดได้จริง ๆ สายรัดข้อมือ Inbody ต้องใช้คู่กับแอพ Inbody บนสมาร์ทโฟนด้วย อย่าลืมโหลดล่ะครับ

Processed with MOLDIV

สายรัดข้อมือ Inbody

เป็นไงครับ สนุกด้วย เบิร์นแคลอรี่ไปด้วย เพื่อนๆ ผมที่ตอนแรกทำยังไงก็เดินก้าวไม่ถึง 10,000 ก้าวสักที ประทานโทษนะครับตอนนี้เดินทะลุ 10,000 ก้าวไป ก็เพราะเดินเก็บโปเกมอนนี่ละครับ แต่ก็แบ่งเวลาเล่นดีๆ อย่าให้เสียงานที่ทำนะครับ และระมัดระวังการเดินเล่นในบางพื้นที่ อาจจะเดินชนเสาไฟ ตกท่อ ออกถนน ระมัดระวังด้วยครับ ตอนนี้ขอตัวไปเก็บโปเกมอนก่อนนะครับ เลิกงานแล้ว แต่น แต๊น โปเกมอนจ๋า อยู่ไหน มามะ มาให้จับซะดีๆ

เป็นเพื่อนแชทพูดคุยสอบถามกันได้ที่ Line ID : @chavanut และ IG: chavy212

3 ท่า 5 นาที สร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มเผาผลาญให้หุ่นดีเว่อร์! ปัง!!!

อยากรูปร่างดี หุ่นดี ใส่เสื้อผ้าสวยเดินไปไหนก็มีคนมอง มีคนชมว่าหุ่นดีจัง! แต่ไม่มีเวลาออกกำลัง เช้าตื่นแต่ไก่ยังหลับอยู่เลย แล้วก็ทำงาน ทำงาน กลับบ้านก็มืดค่ำ ไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกที่บ้านเลย จนกลายสภาพจากอ้อนแอ้น เป็นอวบอิ่ม ทำยังไงดี ?

การที่เราจะรูปร่างดีนั้น นอกจากการควบคุมแคลอรี่แล้ว การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การที่ร่างกายของเราเผาผลาญแคลอรี่ได้มากน้อย ขึ้นอยู่กับมวลกล้ามเนื้อว่ามีมากหรือน้อย ถ้ามีน้อยก็อ้วนง่าย! ถ้ามีมากก็อ้วนยาก! การสร้างมวลกล้ามเนื้อก็ต้องออกกำลังกาย (กรรมวิธีสร้างกล้ามเนื้อ) และเพิ่มโปรตีนคุณภาพ (ซ่อมแซมและเป็นวัตถุดิบในการสร้างกล้ามเนื้อ)

แต่ตอนนี้เราจะมาพูดถึงการออกกำลังเพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อกันอย่างเดียวนะครับ ผมมี 3 ท่า 5 นาที มาแนะนำมีข้อดีคือ

  1. ใช้เวลาน้อย เหมาะสำหรับคนเวลาน้อยนิด
  2. สร้างมวลกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ได้ทั้งตัว คุ้มค่าต่อเวลาแค่ 5 นาที
  3. ทำในห้องนอน หน้าห้องน้ำ ห้องครัว หรือทุกที่แล้วแต่สะดวกละกัน
  4. ไม่ต้องมีอุปกรณ์ใดๆ ให้ยุ่งยาก

เริ่มจากท่าแรก Push Up (บริหารกล้ามเนื้อส่วนบนทั้งหมด)

ท่านี้บริหาร อก หลังแขน ไหล่ ท่านี้เป็นสุดยอดของการบริหารกล้ามเนื้อส่วนบน เล่นท่านี้ท่าเดียวได้ส่วนบนทั้งหมด สาวๆที่เล่นท่านี้กล้ามเนื้อช่วงไหล่และแขนจะกระชับใส่เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว สวยจนชายมองเหลียวหลังเลย ถ้าเป็นชายหนุ่มละก็ ใส่เสื้อกล้าม โชว์กล้ามเนื้อไหล่แน่นๆ จนสาวอยากซบนานๆ เลยเชียว!

ทำ 10-15 ครั้งต่อเซ็ท วันละ 4 เซ็ท เช้าตื่นนอน 2 เซ็ท เย็นก่อนอาบน้ำ 2 เซ็ท

Processed with MOLDIV

ท่า Push Up (สำหรับผู้ชาย)

image

ท่า Push Up (สำหรับผู้หญิง)

ท่าที่สอง Plank (บริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว)

ท่า Plank เป็นท่ายอดฮิตที่จะทำให้หน้าท้อง กับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวแข็งแรง แถมยังทำให้หลังส่วนล่างแข็งแรงขึ้นด้วย ใครอยากมีซิกส์แพ็คต้องท่านี้เลย นักกีฬายิ่งต้องเล่นเลย เพราะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวที่แข็งแรงจะช่วยให้การเล่นกีฬาดียิ่งขึ้น สาวๆ ก็จะมีเอวเป็นเอว เฟิร์มสวยโชว์ได้ไม่อายใคร

ทำค้างนิ่งไว้ 30-45 วินาทีต่อเซ็ท เช้าตื่นนอน 2 เซ็ท เย็นก่อนอาบน้ำ 2 เซ็ท

Processed with MOLDIV

ท่า Plank

ท่าสุดท้าย Squats (บริหารกล้ามเนื้อส่วนล่าง)

ท่านี้ได้กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง ก้น แบบเต็มๆ ผลที่ได้คือ ขากระชับมากขึ้น และก้นจะกระชับไม่หย่อนห้อย สวยงามน่าตีก้น ผลต่อสุขภาพที่ได้คือ ข้อต่อเข่า และกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ช่วยลดการบาดเจ็บข้อต่อเข่า กล้ามเนื้อขาเป็นกล้ามเนื้อที่ใหญ่มาก ส่งผลให้อัตราเผาผลาญเพิ่มมากขึ้น ทำให้ไขมันลดลงได้

ทำ 10-15 ครั้งต่อเซ็ท วันละ 4 เซ็ท เช้าตื่นนอน 2 เซ็ท เย็นก่อนอาบน้ำ 2 เซ็ท

Processed with MOLDIV

ท่า Squats

การสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญ สิ่งสำคัญคือ ความสม่ำเสมอ ทำให้เป็นนิสัย การปลูกฝังนิสัยการออกกำลัง คือ ต้องอดทนทำให้ได้ 21 วัน เพราะการทำสิ่งใดต่อเนื่องกัน 21 วัน เซลล์สมองจะมีการสร้างเซลล์นิสัยนั้นขึ้นมาและมีขนาดที่โตขึ้นเรื่อย กลายเป็นนิสัยหลักๆของคุณ แล้วถ้าคุณทำให้มันเป็นเรื่องสนุก ท้าทาย มีความสุข คุณก็จะยิ่งชอบทำสิ่งนั้น เพราะมันสนุกและเป็นนิสัยของคุณ

เป็นเพื่อนแชทพูดคุยสอบถามกันได้ที่ Line ID : @chavanut และ IG: chavy212

โรคอ้วน (Obesity) ไม่ลดน้ำหนัก โรคเพียบ!

โรคอ้วน หรือภาวะโภชนาการเกิน คือ การที่ร่างกายสะสมไขมันไว้มากผิดปกติ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติ ของระบบเผาผลาญสารอาหารในร่างกาย (Metabolic syndromes) เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง

image

ปัจจุบันงานวิจัยทางโภชนาการระบุสาเหตุของโรคอ้วนไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุความผิดปกติของร่างกาย หรือความผิดปกติของระบบประสาท บางสาเหตุป้องกันได้ ในขณะที่บางสาเหตุก็ไม่สามารถป้องกันได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสาเหตุของการอ้วนจะเป็นอย่างไร มักจะจบลงด้วยเหตุผลของการที่ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารมากกว่าพลังงานที่ร่างกายจะใช้ออกได้หมด พลังงานส่วนที่เหลือใช้จะถูกสะสมในรูปของไขมันใต้ผิวหนัง แต่จะเป็นบริเวณใดก็ขึ้นกับหลายปัจจัย สำหรับบริเวณที่ไขมันสะสมแล้วทำให้ เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังสูงที่สุดก็คือ บริเวณภายในช่องท้อง หรือพุงนั่นเอง

งานวิจัยทางโภชนาการจำนวนมาก ได้ศึกษาหาสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ของพลังงานที่กินกับที่ใช้ไป หากสามารถกำจัดสาเหตุนี้ได้เราก็จะสามารถสมดุลย์พลังงานได้ การควบคุมน้ำหนักก็จะประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น 

ข้อมูล : ผศ. ดร. สุวิมล ทรัพย์วโรบล ภาควิชา โภชนาการและการกำหหนดอาหาร  คณะสหเวชศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Thank you for picture from : www.ThedailyTweight.com

เป็นเพื่อนแชทพูดคุยสอบถามกันได้ที่ Line ID : @chavanut และ IG: chavy212