ลดน้ำหนักจนได้น้ำหนักที่ต้องการได้อย่างไร บอดี้คีย์ (BodyKey)

         ลดน้ำหนัก  ผมลองเสิร์ชหาคำนี้ใน Google  แม่จ้าว!!!  1,670,000 คือผลลัพธ์ที่ได้  นั่นแสดงว่าในโลกออนไลน์มีเรื่องเกี่ยวกับลดน้ำหนักมากมายมหาศาลเลยทีเดียว แล้ววิธีไหนคือ วิธีที่ดี ถูกต้อง ปลอดภัย ล่ะ !!! ผมก็เป็นคนนึงล่ะที่เจอปัญหาเรื่อง น้ำหนักตัว อวบ อ้วนท้วนสมบูรณ์พูนสุข ก็กินอะไร ? ก็อร๊อย อร่อย ไปหมด ผมจำได้ว่าตอนผมเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ เมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้ว น้ำหนักแค่ 56 กิโล เท่านั้นเอง ไม่น่าเชื่อ!  บริษัทเลี้ยงดี อยู่ดี กินดี มีความสุข น้ำหนักของผมเพิ่มเป็น 77 กิโล เพิ่มมา 21 กิโลกรัม จากหนุ่มน้อยรูปร่างบอบบาง สู่หนุ่มใหญ่รูปร่างตุ้ยนุ้ย เลี้ยงพุงกะทิไว้ด้วย เตะบอลก็ไล่เขาไม่ทัน เดินขึ้นกะไดก็ลิ้นห้อย ออกแรงนิด ออกแรงหน่อย ก็หอบ แฮ่ก แฮ่ก !! สาวๆเรียกป๋าขาซะงั้น  อึดอัดสุดๆ กางเกง เสื้อผ้าเริ่มปริ เริ่มทนตัวเองไม่ไหว ยิ่งตอนอาบน้ำเสร็จมองดูตัวเองในกระจก นี่กรู!!! เหรอวะเนี่ย ยิ่งมีคนทักว่า อ้วน อวบ โคตร! ขาดความมั่นใจเลย นี่คือที่มาของการปฏิวัติตัวเอง ด้วยการต้องลดน้ำหนักเป็นการด่วน! เริ่มด้วย……

อย่างแรกต้องรู้สาเหตุความอ้วนก่อนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ? ถึงค่อยหาวิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุด สาเหตุ คือ แคลอรี่หรือกิโลแคลอรี่ หน่วยพลังงานจากอาหารที่เรากินเข้าไป เพื่อให้ร่างกายของเราใช้งานทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เดิน นั่ง วิ่ง นอน ทำงาน ออกกำลัง เบ่งตด หงุดหงิด สรุปทุกกิจกรรมต้องใช้พลังงานจากอาหารที่เรากินเข้าไป จำไว้สองคำ คือ กินกับใช้ ดังนี้

  1. กิน  เท่ากับ  ใช้  ผลลัพธ์ คือ น้ำหนักคงที่
  2. กิน  มากกว่า  ใช้  ผลลัพธ์ คือ น้ำหนักเพิ่มขึ้น
  3. กิน  น้อยกว่า  ใช้  ผลลัพธ์ คือ น้ำหนักลดลง
สาเหตุที่น้ำหนักเพิ่ม คือ ข้อ 2  แต่ถ้าอยากผอมก็ต้องทำข้อ 3  ถ้าอยากรักษาน้ำหนักก็ทำตามข้อ 1

S__26247170

ต่อมาก็หาข้อมูลวิธีการลดน้ำหนักแบบต่าง ๆ ดูข้อดี ข้อเสียของแต่ละวิธี จนสรุปได้แบบนี้เลย มาดูกันว่าเป็นยังไงบ้าง ? แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ตามนี้เลย……

         กลุ่มที่ 1  อดอาหาร กินยาลดน้ำหนัก กินกาแฟลดน้ำหนัก   วิธีนี้คือ กินหรือทำให้กินอาหารน้อยลง ทำให้พลังงานหรือแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับน้อยลงไปด้วย ไม่ต้องพูดถึงสารอาหารต่าง ๆ ก็น้อยลงไปหรือไม่ครบ และทำให้กล้ามเนื้อซึ่งเป็นเตาเผาแคลอรี่สูญสลายเหลือน้อยลง ระบบเผาผลาญแคลอรี่ต่ำลง น้ำหนักลดลงแบบโทรม ๆ นานเข้าอาจทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารได้ พอออกจากคอร์สลดน้ำหนัก ไม่นานน้ำหนักจะเพิ่มกลับขึ้นไปอย่างรวดเร็ว กินนิดเดียวก็อ้วน ซึ่งเรียกว่า อาการโยโย่ และจะอ้วนผอม อ้วนผอม ไปแบบนี้ตลอดที่ใช้วิธีนี้ แถมเมื่อกลับมาอ้วนใหม่ น้ำหนักจะมากกว่าเดิมทุกครั้ง กลายเป็นว่า   “ยิ่งลด ยิ่งอ้วนมากกว่าเดิม”

         กลุ่มที่ 2  คุมแคลอรี่ด้วยการควบคุมอาหาร   ผมเคยลดด้วยวิธีนี้มาแล้วครั้งนึง กินน้อย เลือกกินอาหารที่ให้แคลอรี่ต่ำ แต่การที่จะกินให้ได้สารอาหารครบ แต่ได้แคลอรี่ต่ำ เป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับชีวิตคนทำงาน เดินดิน กินข้าวแกง ไม่ได้มีเวลาทำอาหารกินเอง น้ำหนักลดลงนะครับ แต่แค่ 3 กิโล เอวลดไปแค่นิ้วเดียว เศร้าจัง! หลังจากนั้น ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็ไม่ลดอีกเลย นิ่ง นิ่ง นิ่ง จนผมต๊อแต๊ !!! เลิกลดน้ำหนักไปเลย ถามว่าเพราะอะไรมันถึงได้แค่นั้น แล้วนิ่ง ก็จากวิธีนี้ คล้ายกับกลุ่มแรกละครับ กินน้อย แคลอรี่น้อย สารอาหารน้อยไม่ครบ ทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อเตาเผาพลังงานของร่างกาย ระบบเผาผลาญเสียหายยับเยิน สุดท้ายกินน้อยลงเท่าไหร่ ก็ไม่ลด แถมพอเลิกลดน้ำหนักก็กลับมาอ้วนหนักกว่าเดิมอีก โยโย่ อีกเหมือนกลุ่มแรก เฮ้อ !!!! ดูตารางด้านล่างเป็นน้ำหนักตอนที่ผมใช้วิธีนี้ลง พอดีผมจดไว้ที่ข้างตู้เสื้อผ้า

S__26189829

         กลุ่มที่ 3  ใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารและตัวช่วย   ซึ่งวิธีนี้ต้องลงทุนครับ กับตัวทดแทนมื้ออาหารและตัวช่วย เพื่อลดน้ำหนัก เพราะตัวทดแทนมื้ออาหารทำให้เราได้ปริมาณอาหารและแคลอรี่น้อยลง แต่กลับกันตัวทดแทนมื้ออาหารให้สารอาหารครบและเพียงพอในแต่ละมื้อ รักษาและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ทำให้ระบบเผาผลาญของเราไม่เสียสมดุลย์ กลับเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ น้ำหนักลดได้มากกว่าวิธีอื่นในระยะเวลาที่เท่ากัน ไม่โทรม ไม่ทรมาน และพอออกจากคอร์สก็ไม่กลับไปอ้วนอีก เพราะระบบเผาผลาญยังดีอยู่ ไม่โยโย่!!!

S__26181708

จากข้อมูลเบื้องต้นผมเลือกวิธีการลดน้ำหนักด้วยผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารและตัวช่วย 

  1. ตัวทดแทนมื้ออาหาร เป็นตัวหลัก
  2. ตัวหลักช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมร่างกายระหว่างการลดน้ำหนัก 
  3. ตัวช่วยบล้อกแป้งและน้ำตาล 
  4. ตัวช่วยเพิ่มการเผาผลาญและรักษามวลกล้ามเนื้อ 
  5. ตัวช่วยปรับระบบการเผาผลาญให้สมดุล

ระยะเวลาที่ผมเข้าโปรแกรมเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ผมว่าเรามาร่ายกันดีกว่าว่ายังไง

1. ตัวทดแทนมื้ออาหาร ตัวนี้เป็นตัวหลักเลยสำหรับการลดน้ำหนักโดยการควบคุมแคลอรี่ โดยคุณลักษณะและประโยชน์ดังนี้เลย

  • ต้องให้สารอาหารครบถ้วนที่ร่างกายต้องการในแต่ละมื้ออาหาร เช่น วิตามิน เกลือแร่ โปรตีน ไฟเบอร์ ฯลฯ
  • พกพาสะดวก เมื่อต้องเดินทาง
  • ให้พลังงานต่ำ

2. ตัวช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมร่างกาย ตัวนี้เป็นตัวที่สำคัญในระยะยาวหลังจากออกโปรแกรม ช่วยไม่ให้เราเกิดอาการ โยโย่ เอ็ฟเฟ็ค มีประโยชน์ดังนี้เลย

  • ต้องให้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
  • ร่างกายสามารถดูดซึมได้มาก และนำไปใช้งานได้ทันที

3. ตัวช่วยบล้อกแป้งและน้ำตาล นี่เป็นตัวช่วยที่สำคัญเลยครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่อ้วน น้ำหนักเพิ่มก็มาจากแป้งและน้ำตาลที่กินมากเกินไป คนไทยกินข้าวเป็นหลัก ยิ่งมื้อไหนเจอกับข้าวรสชาติอร่อย มีเบิ้ลสอง เบิ้ลสาม แน่นอน อย่าคิดว่ากินข้าวแล้วไม่อ้วน นะครับ อ้วนได้ถ้ากินแล้วนอนหรืออยู่นิ่ง ๆ ใช้ไม่หมด ร่างกายก็จะแปรรูปเอาไปเก็บสะสมไว้ใช้ พอรุ่งเช้ามันก็เรียกร้องของใหม่ทันที ไม่ได้เอาของเก่าเก็บมาใช้นะครับ พอสะสมนานเข้าก็น้ำหนักพุ่งพรวด อ้วนท้วนสมบูรณ์เรียบร้อย

  • ช่วยบล้อกแป้งและน้ำตาล ไม่ให้ร่างกายดูดซึมไปเก็บสะสมเป็นไขมันตามร่างกาย
  • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล

4. ตัวช่วยเพิ่มการเผาผลาญและรักษามวลกล้ามเนื้อ

  • ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ให้มากขึ้น ยิ่งร่วมกับการออกกำลังกายด้วย ยิ่งเผาผลาญได้มากขึ้น
  • ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อให้คงอยู่ ไม่หายไประหว่างเข้าโปรแกรม

5. ตัวช่วยปรับระบบการเผาผลาญให้สมดุล

  • ช่วยปรับระบบการเผาผลาญที่เสียหายให้ทำงานได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้อัตราการเผาผลาญเพิ่มขึ้น

สรุปสุดท้าย

ระยะเวลา 8 สัปดาห์

ลดน้ำหนักได้มากกว่าการควบคุมอาหารด้วยตัวเองเกือบ 2 เท่า คือ 6 กิโลกรัม (เอาแค่เดือนแรกเท่ากัน) คุมอาหารเองได้แค่ 3 กิโลกรัม จบคอร์ส 8 กิโลกรัมบริบูรณ์

เอว ลดไป 4.5 นิ้ว กางเกงต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะพอรัดเข็มขัดแล้ว มันย้วยเหมือนกางเกงเลไปเลย

ตะโพก ลดไป 3.5 นิ้ว เมื่อก่อนเล่นบอล ชอบโดนเพื่อนแซวว่า “มึงวิ่งช้า เพราะหนักตูด” แหม! ทีเดียวไม่เท่าไหร่ แต่บ่อยเข้ามันปวดใจจิ๊ดทีเดียว

สภาพร่างกายไม่ได้ดูโทรม เหี่ยว หย่อนยานอะไรเลย ปกติ แต่ไซส์เราลดลง วิ่ง เดิน ออกกำลังสบายตัวจริง ๆ รู้งี้ลดตั้งนานแล้ว น้อง ๆ ที่ทำงานยังทักกันเลยว่า “พี่ไปทำไรมา หล่อ ผอม เพรียว หน้าตาดูเด็กลง” ผมงี้! ยิ้มปากแทบฉีก นี่ไง! คำพูดที่อยากได้ยิน

ดูตารางที่ผมทำเปรียบเทียบไว้ กับรูปด้านล่างดูครับ หวังว่าประสบการณ์การลดน้ำหนักของผมจะช่วยให้ทุกคน ตัดสินใจเลือกได้ว่า ถึงเวลาหรือยังที่เราต้องลดน้ำหนัก เพื่อรูปร่างที่ดี และสุขภาพที่ดี

S__26796034

รูปกราฟ เปรียบเทียบการลดน้ำหนักระหว่างควบคุมอาหารด้วยตัวเอง (เส้นสีฟ้า) กับตัวทดแทนมื้ออาหารและตัวช่วย (เส้นสีเขียว)

ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูนะครับว่า ทำไมเราถึงต้องลดน้ำหนัก ลดแล้วเราจะเป็นอย่างไร ได้คำตอบแล้ว ก็ตัดสินใจเองครับว่าจะยังไงดี

“การเริ่มต้นลดน้ำหนักที่ดีที่สุด คือ เริ่มเดี๋ยวนี้ เพราะถ้าคุณไม่ตัดสินใจลดเอง เมื่อถึงเวลานั้น ก็อาจจะมีหมอมาบอกให้คุณลดน้ำหนักอยู่ดี”

เป็นเพื่อนแชทพูดคุยสอบถามกันได้ที่ Line ID : @chavanut และ IG: chavy212

หากคุณคือคนธรรมดา คุณสำเร็จได้เพราะสิ่งนี้

ทอมัส เอดิสัน
บิดาแห่งนักประดิษฐ์ ทอมัส เอดิสัน (Thomas Edison) ผู้ให้กำเนิดหลอดไฟที่มอบแสงสว่างให้กับโลกคนนี้ เคยถูกครูด่าว่า “โง่และสอนไม่ได้!!!”  เคยถูกไล่ออกจากงานจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่เคยยอมแพ้และล้มเลิกความคิดในการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ จนมีผลงานที่จดสิทธิบัตรมากกว่า 1,000 ชิ้น ซึ่งวลีเด็ดที่เขาคือ “ความสำเร็จในชีวิตของเขานั้นมาจากความพยายาม 99 % และแรงบันดาลใจ 1 %” หากปราศจากเป้าหมายที่ชัดเจน ก็คงไม่มีความพยายามมากมายขนาดนั้น จนประสบความสำเร็จ

เอลวิส เพรสลีย์
หากมีคนมาสบประมาทคุณและพูดว่า  “คุณควรจะกลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า”  เป็นคุณ คุณคิดอย่างไร อาจจะเชื่อตามนั้น แต่ไม่ใช่กับชายที่ชื่อเอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ที่ทำให้เขาต้องรู้สึกว่าเขาต้องล้มเลิกความฝันหรือเป้าหมายในชีวิตไป โดยหัวหน้าวง Smith ได้พูดกับเขาเช่นนั้น ขณะที่เขาไปสมัครเป็นนักร้องนำของวงดังกล่าว เพราะเห็นว่าเขาไม่สมควรจะเป็นนักร้อง แต่ควรมีอาชีพเป็นคนขับรถบรรทุกเช่นเดิม แต่นั่นไม่ได้ลดความพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายของราชาเพลงร็อกแอนด์โรลคนนี้ได้เลย เพราะเขายังคงมุ่งมั่นแสดงพรสวรรค์ทางการร้องเพลงอย่างต่อเนื่อง จนประสบความสำเร็จ และกลายเป็นราชาร้อคแอนด์โรลล์ของแฟนเพลงทั่วโลก

สตีฟ จ็อบส์
คุณเชื่อหรือไม่ ? สุดท้ายเขาก็สร้างความสำเร็จให้ตนเองได้ภาคภูมิใจ เพียงเพราะความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ มีเป้าหมายที่ชัดเจนของชายที่ชื่อ “สตีฟ จ็อบส์”​ (Steve Jobs) แม้ว่าวันนี้ โลกทั้งโลกจะยกย่องแนวคิดของเขาว่าเป็นที่สุดแห่งจุดกำเนิดของนวัตกรรม แต่เมื่อครั้งที่เขาก่อตั้งบริษัทขึ้นเป็นครั้งแรกก็กลับถูกผู้บริหารของบริษัทตนเองไล่ออก! เพราะความขัดแย้งเรื่องทิศทางธุรกิจ แต่แน่นอนว่าในวัย 30 ปี กลับทำให้เขารู้สึกว่าการว่างงานคือ ความอิสระ จึงได้เปิดบริษัทใหม่อีกครั้งในชื่อ NeXT ซึ่งหลังจากนั้นก็ถูก Apple ซื้อไปเป็นรากฐานของ OSX ของแอปเปิล จากนั้นเขายังได้เปิดบริษัท Pixar เพื่อสร้างสรรค์การ์ตูนแอนิเมชั่น 3 มิติ ชื่อดังอย่าง Toy Story , Monster Inc, Finding Nemo และถูกซื้อไปอยู่ภายใต้ Walt Disney ในเวลาต่อมา ก่อนที่โชคชะตาจะพลิกผัน และทำให้เขาได้กลับไปยัง Apple อีกครั้ง จนกระทั่งได้สร้างสรรค์สินค้าที่เปลี่ยนแปลงโลกอย่าง iPod, iPhone และ iPad

ฮาร์วาร์ดมหาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของโลก ได้มีการทำวิจัยชิ้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก โดยผู้ตอบแบบสำรวจเป็นคนที่มีสติปัญญา การศึกษา และพื้นฐานการดำเนินชีวิตที่ไม่แตกต่างกัน พบว่า

27 % เป็นคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต

60 % เป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิตไม่ชัดเจน

10 % เป็นคนที่มีเป้าหมายระยะสั้น ๆ ที่ชัดเจน

3 % เป็นคนที่มีเป้าหมายระยะยาวชัดเจน

โดยได้ติดตามอีกเป็นเวลา 20 ปี แล้วพบว่าคนกลุ่มนี้มีชีวิตดังนี้

27 % ที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต พบว่าพวกเขาอยู่ในสังคมระดับล่างสุด และมักผิดหวังในชีวิต มักตกงานโดยต้องรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสังคม ชอบบ่นว่าผู้อื่น และบ่น บ่น บ่น กับทุกสิ่งบนโลกใบนี้

60 % ที่มีเป้าหมายในชีวิตไม่ชัดเจน พบว่าพวกเขาอยู่ในสังคมระดับกลางและล่าง และได้งานที่มั่นคง แต่ว่าไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากเท่าที่ควร

10 % ที่มีเป้าหมายระยะสั้น ๆ ที่ชัดเจน พบว่าพวกเขาบรรลุเป้าหมายระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลายเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น หมอ ทนายความ วิศวกร ผู้บริการระดับสูง เป็นต้น

3 % ที่มีเป้าหมายระยะยาวชัดเจน พบว่าพวกเขาทุ่มเทความพยายามไปในทิศทางเดียวเท่านั้น ทำให้กลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสังคม

ผลวิจัยนี้ทำให้พวกเรารู้ว่า “หากคุณไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็มิอาจประสบความสำเร็จในชีวิตได้” 

จริง ๆ แล้ว คนที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากนั้น ไม่ใช่คนที่มีความสามารถและสติปัญญาโดดเด่นกว่าคนอื่น ตรงข้ามพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดา ๆ อาจเรียนได้อันดับท้ายๆ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ “คนธรรมดา ๆ เหล่านั้นมีความแน่วแน่กับเป้าหมายตนเอง  พวกเขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางที่วางไว้ “ แต่สำหรับคนที่ฉลาดและเต็มเปี่ยมด้วยความสามารถกลับสนใจเสียทุกอย่างและไร้ซึ่งจุดหมาย ทำให้ที่สุดจึงไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่อย่างเดียว ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า “เป้าหมายชีวิตมีผลต่อความสำเร็จของคนธรรมดา ๆ”

ฝากช่วยกด Like กด Share ด้วย ขอบคุณครับผม

เป็นเพื่อนแชทพูดคุยสอบถามกันได้ที่ Line ID : @chavanut และ IG: chavy212